วันพฤหัสบดีที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2558

เอกสารอ้างอิง

เอกสารอ้างอิง

- ที่มาของความหมายของศีลศักดิ์สิทธิ์ http://banndee.orgfree.com/prawacha/bible/sacraments.html

- ที่มาของเนื้อหาเรื่องศีลสมรส ศีลบรรพชา ศ๊ลเจิมคนไข้https://sites.google.com/site/arc213site/sil-sakdisiththi-7-        prakar-1

-  ที่มาของภาพศีลเจิมคนไข้ www.newmana.com   
-  ที่มาของภาพ http://www.centerwedding.com/
-  ที่มาของภาพ http://th.wikipedia.org/wiki/

บทเรียน

บทเรียน วิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวิชา คริสต์ศาสนา 
หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 เรื่องศีลศักดิ์สิทธิ์:ศีลสมรส ศีลบรรพชา  ศีลเจิมคนไข้
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 

จุดประสงค์การเรียนรู้
1. เพื่อให้ผู้เรียนรู้และเข้าใจความหมายความสำคัญศีลศักดิ์สิทธิ์ เรื่องศีลสมรส ศีลบรรพชา  ศีลเจิม
    คนไข้
2. เพื่อให้ผู้เรียนอธิบายความหมายและความสำคัญศีลศักดิ์สิทธิ์  เรื่องศีลสมรส ศีลบรรพชา  ศีลเจิม
    คนไข้
3. เพื่อตระหนักถึงตระหนักถึงคุณค่าของพระพระของศีลศีลสมรส ศีลบรรพชา  ศีลเจิมคนไข้


เนื้อหา

ศีลศักดิ์สิทธิ์ (Sacraments) เป็นเครื่องหมาย และเครื่องมือนำความรอด เป็นพระคุณ หรือของประทานจากพระเจ้า เพื่อให้เราได้รับความรอดปลอดภัย อาศัยเครื่องหมาย และสัญลัษณ์ภายนอกแบบมนุษย์ เพื่อเป็นสื่อนำความหมายสร้างความสัมพันธ์กับพระ โดยทางความเชื่อภายใน เป็นความสัมพันธ์ที่มีต่อกันระหว่างพระกับเรามนุษย์ เพื่อช่วยให้เราได้มีส่วนในความศักดิ์สิทธิ์ และสัมผัสกับความรักของพระองค์ในชีวิตของเรา
ดังนั้น ศีลศักดิ์สิทธิ์ จึงเป็นเครื่องหมายภายนอกที่พระเยซูเจ้า ทรงตั้งขึ้นโดยผ่านทางพระศาสนจักร ที่ประทานให้แก่เรามนุษย์ เพื่อเป็นอุปกรณ์เครื่องมือของพระ นำมาซึ่งพระคุณ พระหรรษทานแห่งความรอด และความศักดิ์สิทธิ์เพื่อเรา นั่นคือ เป็นเครื่องหมายภายนอกที่มาจากความเชื่อภายใน เพื่อทำให้เราผู้รับได้รับพระหรรษทานจากองค์พระเจ้า

 ศีลสมรส ( Matrimony ) หรือศีลกล่าว


                                     ที่มาของภาพ http://www.centerwedding.com/

        เป็นความรักที่ ชายและหญิงมีต่อกัน และพร้อมที่จะกล่าวประกาศว่าเขาทั้งสองรักกัน ด้วยความสมัครใจ มีอิสระอย่างเต็มที่ โดยไม่ได้ถูกบังคับ และพร้อมที่จะร่วมชีวิตคู่ เพื่อเป็นของกันและกัน เป็นหนึ่งเดียวในความรักที่หย่าร้างไม่ได้ ที่จะซื่อสัตย์ต่อกันจนตลอดชีวิต เพื่อเป็นเครื่องหมาย เป็นพยานถึงความรักของพระ และพร้อมที่จะมอบครอบครัวใหม่ให้เป็นกรรมสิทธิ์ของพระ
           เครื่องหมายสำคัญ คือ คำกล่าวของคู่บ่าวสาว ต่อหน้าพระสงฆ์ผู้แทนของพระศาสนจักร รวมทั้งบรรดาสักขีพยานว่าเขาทั้งสองรักกันและจะซื่อสัตย์ต่อกันจนกว่าชีวิต จะหาไม่
           ผลของศีลสมรส ทำให้คู่บ่าวสาวเป็นสามีภรรยาอย่างถูกต้องต่อหน้าพระ และต่อพระศาสนจักร อยู่ในชีวิตพระหรรษทาน และเป็นครอบครัวคริสตชนใหม่ที่พร้อมจะให้กำเนิดบุตร อบรมเลี้ยงดูในชีวิตคริสตชน เป็นพยานประกาศความรักของพระในความสมบูรณ์ครบครันของชีวิตครอบครัวของเขา เพื่อช่วยกันและกันในความบกพร่อง หรือที่ขาดไปให้แก่กันและกัน ทั้งนี้คู่บ่าวสาวจะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของพระศาสนจักรเพื่อความดีและ ความรอดของวิญญาน


ศีลบวช ( Holy Orders ) หรือการถวายตัว

ที่มาของภาพ http://th.wikipedia.org/wiki/

          ผู้ที่จะสมัครบวช หรือถวายตัวแด่พระ เป็นพระพรแห่งกระแสเรียกที่พระทรงเรียก และเลือกบุคคลหนึ่งให้ดำเนินชีวิต และมีภารกิจในการเป็นศาสนบริการ ผู้แทนสงฆ์ของพระคริสตเจ้า ในการประกาศสอนคำสอน การประกอบพิธีศีลศักดิ์สิทธิ์ และการปกครองดูแลหล่อเลี้ยงชีวิตคริสตชน
           เครื่องหมายสำคัญ คือ การปกมือของพระสังฆราชเหนือผู้รับศีลบวช ตลอดจนการเจิมน้ำมันคริสมา เพื่อเป็นเครื่องหมายถึงการประทานองค์พระจิตเจ้า เป็นการอภิเษก และมอบอำนาจของการเป็นสงฆ์แห่งศาสนบริกร เพื่อต่องานขององค์พระคริสตเจ้า และการถูกส่งไปเพื่อรับใช้เป็นผู้ประกาศข่าวดีแห่งความรอด
           ศีลบวช มีลำดับ 3 ขั้น คือ พระสังฆราช พระสงฆ์ และสังฆานุกร


ศีลเจิมคนไข้ ( Anointing of the Sick ) หรือสำหรับผู้ป่วย


ที่มาของภาพ www.newmana.com

          มิใช่เป็นศีลทาสุดท้าย และจะต้องตาย แต่เป็นศีลที่โปรดให้สำหรับผู้ป่วยที่อ่อนกำลัง ในสภาพที่น่าเป็นห่วง หรือกำลังจะสิ้นใจ เพื่อเขาจะได้รับพระหรรษทานในยามเจ็บป่วย และเป็นการเตรียมจิตใจให้ยึดมั่นในความเชื่อ และเพื่อการฟื้นฟูสภาพทั้งกายและจิตใจ
           เครื่องหมายสำคัญ คือ การเจิมน้ำมันที่หน้าผาก และฝ่ามือทั้งสองข้าง เพื่อให้ผู้รับจะได้อยู่ในชีวิตพระหรรษทาน และเข้มแข็งมั่นคงในความเชื่อ พร้อมที่จะยอมรับความเจ็บปวด และเห็นถึงพระพรในยามเจ็บป่วย มีส่วนร่วมในพระทรมาน และการกลับคืนชีพของพระคริสตเจ้า
           ดังนั้น ควรจะให้ผู้ป่วยได้รับในขณะที่รู้ตัว เพื่อการเตรียมจิตใจได้อย่างดี ทั้งนี้ผู้รับก็จะสามารถรับศีลอภัยบาป และศีลมหาสนิท ซึ่งถือว่าเป็นศีลเสบียงที่ให้สำหรับผู้ป่วย เพื่อเป็นการเตรียมกลับไปหาพระเป็นเจ้าในสภาพของชีวิตพระหรรษทานในความพร้อม ของผู้ป่วย
ที่มาของความหมายของศีลศักดิ์สิทธิ์ http://banndee.orgfree.com/prawacha/bible/sacraments.html

ที่มาของเนื้อหาเรื่องศีลสมรส ศีลบรรพชา ศ๊ลเจิมคนไข้https://sites.google.com/site/arc213site/sil-sakdisiththi-7-prakar-1
วิดีโออธิบายความหมายและความสำคัญเรื่องศีลสมรส


วิดีโออธิบายความหมายและความสำคัญเรื่องศีลเจิมคนไข้


แบบฝึกหัดศีลศีลศักดิ์สิทธิ์: ศีลสมรส ศีลบรรพชา  ศีลเจิมคนไข้



เฉลยแบบฝึกหัด





แนะนำตัวผู้สอน


ชื่อนักบวช :     เซอร์อาเมลี  หริกุลรักษ์  (นางสาวกมล    หริกุลรักษ์)  

สถานะ :          นักบวชคณะภคินีเซนต์ปอล เดอ ชาร์ต แขวงประเทศไทย www.spcthai.com

อาชีพ :            คุณครู   วิชาสังคมศึกษา  ศาสนา และวัฒนธรรม  รายวิชาคริสต์ศาสนา
                     
                         ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลาย

ปรัชญาชีวิต :       "ทุกสิ่งที่ท่านกระทำ จงกระทำด้วยความรัก"(1คร16:14, น.ฟรังซัวส์ เดอ ซาร์ล)
                     
                       ความหมาย  การทำทุกอย่างด้วยความรัก เป็นสิ่งที่ยากสำหรับข้าพเจ้า เพราะบางสิ่งที่
                     
                       ข้าพเจัาทำ ไม่ใช่สิ่งที่ข้าพเจัาชอบเสมอไป  สิ่งที่ไม่ชอบข้าพเจ้าก็ทำเพียงให้ผ่านๆพ้น
       
                       แต่ข้อความจากพระคัมภีร์ในตอนนี้ท้าทายข้าพเจ้า ให้ต้องทำทุกอย่างด้วยความรัก ด้วย

                       ความอ่อนโยน  ข้าพเจ้าคิดว่าถ้าข้าพเจ้าทำทุกอย่างด้วยความรัก  ถึงแม้เมื่อทำไปแล้ว

                       มันอาจจะพบกับความล้มเหลว  ข้าพเจ้าก็พร้อมสร้างมันขึ้นมาใหม่และทำมันต่อไปจน

                       ประสบความสำเร็จ ข้าพเจ้าจึงยึดพระวาจาตอนนี้มาเป็นรักในการดำเนินชีวิตความเป็น
           
                       "ครู"

ความใฝ่ฝัน :      คุณครูที่ดี  ครูมืออาชีพ


แบบทดสอบก่อน - หลังเรียน

แบบทดสอบก่อนและหลังเรียน วิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวิชา คริสต์ศาสนา 
หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 เรื่องศีลศักดิ์สิทธิ์(ศีลสมรส ศีลบรรพชา  ศีลเจิมคนไข้)
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 

คำสั่ง  จงเลือกกากบาทคำตอบที่ถูกที่สุดเพียงข้อเดียว
1. ข้อใดคือความหมายที่สมบูรณ์ของศีลสมรส
    ก. ศีลแต่งงาน                    
    ข. ศีลกล่าว
    ค. ศีลศักดิ์สิทธ์ประการหนึ่งใน 7 ประการ
    ง. ศีลศักดิ์สิทธิ์ที่ประทานพระพรแด่คู่บ่าวสาวในการสร้างครอบครัว

2. พันธะผูกพันในศีลสมรสมีอยู่ 3 ประการ คือ
    ก. เป็นหนึ่งเดียวกัน หย่าร้างไม่ได้  มีการให้กำเนิด
    ข. คู่บ่าวสาวเป็นคริสตชน  หย่าร้างไม่ได้ มีการให้กำเนิด
    ค. มีความรักต่อกัน หย่าร้างกันได้ถ้ามีความจำเป็น มีการให้กำเนิด
    ง. เป็นหนึ่งเดียวกัน หย่าร้างได้  ไม่จำเป็นต้องให้กำเนิดบุตรเพราะไม่ใช่จุดประสงค์ของการแต่ง-งาน

3. การแต่งงานในศาสนาคริสต์จะถือว่าไม่สมบูรณ์ในกรณีใด
    ก.      คู่บ่าวสาวมีความรักต่อกัน
    ข.      การแต่งงานในกรณีที่ถูกบังคับ
    ค.     คู่บ่าวสาวมีอายุมากแล้ว
    ง.      คู่บ่าวสาวหย่งร้างกันในภายหลัง

4. ใครผู้ที่โปรดศีลสมรสให้กับคู่บ่าวสาว
    ก. พระสงฆ์                    ข. พระสังฆราช
    ค. พระสันตะปาปา         ง. คู่บ่าวสาวโปรดให้แก่กันและกัน

5. สิ่งสำคัญในศีลสมรสคืออะไร
    ก. ความสมัครใจของคู่บ่าวสาว การทำพิธีในโบสถ์ด้วยความรู้ตัว  มีอิสรภาพ
    ข. ความสมัครใจ การรู้ตัว มีอิสรภาพ สัญญาว่าจะรักกันจนกว่าชีวิตจะหาไม่  
    ค. ความสมัครใจ การทำพิธีในโบสถ์  รักกันจนกว่าชีวิตจะหาไม่
    ง. การทำพิธีในโบสถ์ สัญญารักกันจนกว่าชีวิตจะหาไม่

6. ความหมายของศีลบรรพชาในข้อใดถูกต้องที่สุด
    ก. ศีลศักดิ์สิทธิ์ที่ประทานพระพรแด่ผู้ที่รับศีลเพื่อทำหน้าเทศน์สอนและอภิบาลสัตบุรุษ                      
    ข. ศีลบวชที่พระเจ้าประทานพรแก่พระสงฆ์
    ค. ศีลศักดิ์สิทธ์ประการหนึ่งใน 7 ประการ
    ง. ถูกเฉพาะข้อ ก. และข้อ ข.

7. พระเยซูเจ้าทรงตั้งศีลบรรพชาเมื่อใด
    ก. เมื่อทรงรับพิธีล้างจากท่านยอห์น
    ข. งานเลี้ยงอาหารค่ำมื้อสุดท้าย
    ค. ก่อนสิ้นพระชนม์
    ง. เมื่อเสด็จสู่สวรรค์

8. ภารกิจของพระสงฆ์คืออะไร
    ก. การเทศน์สอน การสอนเรียน
    ข. การดูแลทรัพย์สมบัติของคนยากจน
    ค. การเทศน์สอน การดูแลคนเจ็บป่วย
    ง. การเทศน์สอน การดูแลอภิบาลสัตบุรุษ
        การปกครองพระศาสนจักรระดับวัด

9. ตำแหน่งที่สำคัญในพระศาสนจักรคืออะไรบ้าง
    ก. พระสันตะปาปา พระสงฆ์ สัตบุรุษ
    ข. พระสังฆราช นักบวช พระสงฆ์
    ค. พระสันตะปาปา  พระสังฆราช พระสงฆ์
    ง. พระสังฆราช พระสงฆ์ สัตบุรุษ

10. พระสันตะปาปาคือใคร
      ก. ประมุขสูงสุดของพระศาสนจักร ผู้สืบตำแหน่ง
          มาจากนักบุญเปโตร
      ข. ผู้ดูแลอภิบาลระดับสังฆณฑล
      ค. ผู้ดูแลอภิบาลระดับวัด
      ง. ผู้เทศน์สอนสัตบุรุษ

11. พระสังฆราชคือใคร
      ก. เป็นผู้สืบเนื่องจากอัครสาวก     
      ข. เป็นผู้ดูแลพระสงฆ์ระดับสังฆมณฑล
      ค. เป็นผู้ดูแล สัตบุรุษระดับวัด
      ง. ถูกทั้งข้อ ก. และข้อ ข.

12. พระสังฆราชองค์ปัจจุบันของสังฆมณฑลกรุงเทพ
      มีชื่อว่าอะไร
      ก. ฟรังซิสเซเวียร์ วีระ อาภรณ์รัตน์
      ข. ฟรังซิสเซเวียร์ เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช
      ค. ซิลวีโอ สิริพงษ์ จรัสศรี
      ง. ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู

13. พระศาสนจักรประเทศไทยแบ่งการปกครอง
      ออกเป็นกี่สังฆมณฑล
      ก. 4  สังฆมณฑล        ข.  6  สังฆมณฑล
      ค. 7  สังฆมณฑล         ง. 10 สังฆมณฑล

14.  ศีลบรรพชารับได้กี่ครั้งในชีวิต
       ก. 1 ครั้ง      ข. 2 ครั้ง      ค. 3 ครั้ง     ง. หลายครั้ง

15. ใครเป็นผู้โปรดศีลบรรพชาให้กับพระสงฆ์
      ก. พระสันตะปาปา  พระสงฆ์
      ข. พระสันตะปาปา  พระสังฆราช
      ค. พระสังฆราช  พระสงฆ์
      ง. พระคาร์ดินัล  พระสงฆ์

16. เราควรปฏิบัติต่อพระสมณะและพระสงฆ์อย่างไร
      ก. นำสิ่งของที่จำเป็นไปบริจาคให้ท่าน
      ข. เคารพเชื่อฟังคำสั่งสอนของท่าน
      ค. นำอาหารไปถวายให้ท่านทุกวัน
      ง. พาท่านไปจาริกแสวงบุญ                     

17. ข้อใดคือความหมายของศีลเจิมคนไข้
      ก. ศีลศักดิ์สิทธิ์ที่ประทานพระหรรษทานแก่ผู้
          เจ็บป่วยหรือผู้ใกล้จะตายได้พบกับความรอด
      ข. ศีลศักดิ์สิทธิ์ที่ประทานพระพรแด่ผู้ที่รับศีลเพื่อ
          ทำหน้าเทศน์สอนและอภิบาลสัตบุรุษ
      ค. ศีลศักดิ์สิทธิ์ที่ประทานพระพรแด่คู่บ่าวสาว
          ในการสร้างครอบครัว
      ง. ศีลศักดิ์สิทธิ์ที่ลบล้างบาปกำเนิด        

18. ศีลเจิมคนไข้สามารถรับได้กี่ครั้งในชีวิต
      ก. 1 ครั้ง        ข. 2 ครั้ง      ค. 3 ครั้ง     ง. หลายครั้ง

19. ข้อใดคือผลของศีลเจิมคนไข้
      ก. ทำให้ผู้ใกล้จะตายได้ไปสวรรค์
      ข. ให้พลังกาย-ใจกับคนไข้  
      ค. อภัยบาปหนักเท่านั้น 
      ง. ลบล้างบาปกำเนิด      

20. ใครเป็นผู้โปรดศีลเจิมคนไข้
      ก. นักบวช                    ข. พระสงฆ์

      ค. สามเณร                   ง. สัตบุรุษ



----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เฉลย
1.   ง       2.  ก       3.  ข     4.  ง      5.  ข      6.  ก      7.  ข      8.  ง      9.  ค      10.  ก      11.  ง      12.  ข      13.  ง     14.  ก      15.  ข     16
16. ข      17. ก      18.  ง      19.  ข     20. ข